การซื้อรถคันแรกหรือออกรถใหม่ป้ายแดง เป็นหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายคน เพราะการมีรถยนต์ส่วนตัวนอกจากช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ยังเป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่สามารถต่อยอดการทำงานและความรู้สึกภูมิใจอีกด้วย แต่การออกรถป้ายแดงนอกจากเลือกสเปครถ สีรถและยี่ห้อรถที่ถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว จะต้องตรวจเช็กอะไรอีกบ้างมาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
1. ตรวจเช็คสภาพรถยนต์รอบตัวรถ
- เดินสำรวจรถรอบคันให้ละเอียด ว่ามีรอยหรือไม่
- เปิด/ปิด ประตูรถทุกบาน ว่ามีปัญหาหรือฝืดหรือไม่
- เช็กความเสมอกันของฝากระโปรงรถ ต้องมีระยะห่างที่เรียบเสมอกัน
- เช็กขอบยางของประตูรถว่าไม่มีอาการบวมหรือยุบ
- เช็กความสมบูรณ์ของกระจกรถทุกบาน ว่าสามารถเปิด/ปิด ได้ทั้งหมดหรือไม่และต้องไม่มีรอยร้าว
- เช็กยางปัดน้ำฝน ต้องแนบสนิทไปกับกระจก ยืดหยุ่น ไม่แข็งกระด้างและพร้อมใช้งาน
- เช็กโคมไฟหน้ารถต้องไม่เหลือง ไฟท้ายและไฟเลี้ยว ต้อยไม่มีริ้วรอย
- ตรวจสอบยางและล้อรถยนต์ว่าอยู่ในสภาพใหม่หรือไม่ ผิวยางต้องไม่มีรอยบิ่นหรือแตกลายงา ล้อแม็กซ์ต้องไม่เป็นรอย
- ตรวจเช็กท้ายรถว่ามีอุปกรณ์และเครื่องมือประจำรถครบหรือไม่ เช่น อะไหล่ ชุดซ่อม แม่แรง ล้ออะไหล่ ประแจ ฯลฯ
2. ตรวจสอบระบบการทำงานของรถ
- หลังจากตรวจเช็คสภาพรถยนต์รอบตัวรถภายนอกแล้ว ต่อมาก็คือการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ภายในห้องโดยสาร ดังนี้
- ตรวจเช็กคุณภาพของเครื่องปรับอากาศ เพราะหากระบบแอร์มีปัญหาอาจจะส่งผลให้มีปัญหาใหญ่ตามมาได้
- เช็กระบบเครื่องเสียง ความดังของลำโพงว่าครบทุกจุดหรือไม่ รวมถึงลองเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย (ถ้ามี)
- เบาะนั่ง ต้องตรวจเช็กว่ามีฝุ่นหรือรอยคราบเปื้อนหรือไม่ ลองปรับเบาะนั่งบนรถทุกตำแหน่ง ว่าเกิดการติดขัดหรือไม่ โดยเฉพาะหากเป็นเบาะที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ต้องปรับได้อย่างเรียบเนียนไม่สะดุด ความสบายในการนั่งเป็นอย่างไร เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวหากต้องขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานได้
- ยางปูพื้นรถ ควรตรวจสอบว่ามีครบทุกจุดหรือไม่ มีคราบหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่ รวมไปถึงหน้าปัดเรือนไมล์ต่างๆ บนแผงคอนโซลว่ามีรอยแตก รอยแยก หรือรอยชำรุดต่างๆ หรือไม่
- เสียบกุญแจ หรือหากรถเป็นกุญแจแบบ keyless ให้ลองปลดล็อกและล็อกรถดูว่าประตูทุกบานตอบสนองต่อการล็อกและปลดล็อกหรือไม่
- เช็กไฟทุกดวง โดยเฉพาะไฟหน้า ไฟสูง ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ไฟถอย ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ว่าติดหรือไม่ รวมไปถึงไฟในห้องโดยสารทุกจุด
- ลองพับกระจกมองข้าง และเปิดที่ปัดน้ำฝนดูว่าใช้งานได้หรือไม่ รวมถึงระบบฉีดน้ำว่าออกมาปกติและสม่ำเสมอหรือเปล่า
- สตาร์ทรถและเร่งคันเร่ง เพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ว่ามีอาการสะดุด หรือมีเสียงอะไรผิดปกติหรือไม่ และเมื่อเข้าเกียร์จะต้องไม่มีเสียงเกียร์ดังรบกวน
- ลองหมุนพวงมาลัย เพื่อตรวจเช็กว่าเวลาหมุนพวงมาลัยมีเสียงดังเวลาเลี้ยวหรือไม่
- เช็กห้องเครื่องของเครื่องยนต์ว่ามีริ้วรอย หรือคราบน้ำมันติดอยู่หรือเปล่า รวมถึงแบตเตอรี่ต้องอยู่ในสภาพใหม่ สายไฟต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแกะ ถอดรื้อหรือชำรุดเสียหาย
- เช็กระบบเบรกมือว่ามีไฟขึ้นที่หน้าปัดหรือไม่เวลาดึงขึ้น
3. ตรวจสอบเอกสารสำคัญต่างๆ ของรถ
- เช็กเล่มสมุดทะเบียนรถ เลขของตัวถังรถต้องตรงกับเลขที่ระบุเอาไว้ภายในเล่ม
- เช็กเอกสารการโอนรถ ต้องมีเอกสารประกันรถยนต์และ พ.ร.บ. รถยนต์ ประกอบอยู่ในเล่ม
- ตรวจเช็กใบเสร็จเงิน ว่าระบุยอดครบตามที่จ่ายไปหรือไม่
- มีใบเสร็จเงินค่ามัดจำป้ายแดง
- เช็กป้ายแดงว่าเป็นของจริงหรือไม่ มีตรา ขส. (ขนส่ง) หรือไม่
- มีเอกสารรับประกันอุปกรณ์ภายในรถและเอกสารรับประกันการเช็กระยะฟรี
- หากออกรถมือใหม่ป้ายแดง มีการแถมชุดแต่งให้ ต้องมีเอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งให้ครบถ้วน
- ภายในรถจะต้องมีสมุดคู่มือรถ
ไปรับรถใหม่ป้ายแดง ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง
เมื่อถึงวันรับรถสิ่งที่ต้องเตรียมไปเลย คือ เงิน เพราะในวันรับรถใหม่ อาจมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าจดทะเบียน ซึ่งรถแต่ละรุ่นนั้นก็มีค่าจดทะเบียนที่ไม่เท่ากัน รวมไปถึงอาจต้องเสียเงินจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีค่ามัดจำป้ายแดงที่ต้องจ่ายล่วงหน้าไว้เอา เมื่อได้รับป้ายขาวแล้วถึงจะได้รับเงินค่ามัดจำคืน และยังมีค่ารถงวดแรก ค่าน้ำมันอีกด้วย เพราะส่วนใหญ่การออกรถใหม่ป้ายแดง ตัวรถจะมีการเติมน้ำมันจากโรงงานมาให้เพียงเล็กน้อย หรือบางทีโชว์รูมที่ไปออกรถใหม่ป้ายแดงอาจจะไม่มีการเติมน้ำมันเต็มถังเอาไว้ให้ จึงต้องขับไปเติมเองหลังออกจากโชว์รูม และในส่วนสุดท้ายอาจจะมีค่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่นอกเหนือจากรายการของแถม ที่ได้มาจากการสั่งติดตั้งเพิ่มของผู้ออกรถใหม่ป้ายแดงเอง เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลดีและรูปภาพดีๆจาก : www.viriyah.com
ใครที่กำลังจะออกรถใหม่ก็อย่าลืมตรวจเช็ครถให้ดีก่อนรับรถมานะครับ และหากใช้รถไปนานๆแล้วเกิดปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ ต้องการชิ้นส่วนอะไหล่หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ ทุกรุ่น ทุกแบรนด์ สามารถติดต่อที่ จี.พี. อะไหล่ ได้เลยนะครับ