TAG: น้ำท่วม

Knowledge

ดูแลรถหลังจมน้ำ ต้องซ่อมอะไรบ้าง? คู่มือฉบับ GP Autoparts

สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นเลย เราอยากส่งกำลังใจถึงทุกคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ในตอนนี้นะครับ เราเข้าใจดีว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่อย่าลืมว่าเราจะผ่านมันไปด้วยกัน! วันนี้เรามาคุยกันเรื่องปัญหาหนักอกของใครหลายคนกับสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำเอารถเราต้องแช่น้ำกันเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เดี๋ยวเราจะมาแชร์เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลรถหลังน้ำท่วมให้ฟังกัน ขอบคุณรูปภาพจาก : theactive.net มาดูกันว่าต้องจัดการอะไรบ้างหลังรถโดนน้ำท่วม สำรวจความเสียหายก่อนเลย: พอน้ำลด รีบออกมาดูรถกันหน่อยครับว่าเป็นยังไงบ้าง ทั้งข้างนอกข้างใน แล้วก็เปิดฝากระโปรงดูเครื่องยนต์ด้วย ถ้ามีประกันชั้น 1 ก็รีบแจ้งเขาไปเลยนะ จะได้ช่วยแบ่งเบาค่าซ่อม อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่องเชียว!: ใจเย็นๆ ก่อนครับ อย่าเพิ่งรีบสตาร์ทรถ เดี๋ยวน้ำกับเศษขยะเข้าเครื่อง จะยิ่งพังหนักกว่าเดิม ส่งรถเข้าอู่ดีกว่า: ให้มืออาชีพจัดการจะดีที่สุด บอกเขาด้วยว่าน้ำท่วมสูงแค่ไหน จะได้เช็คได้ละเอียด แล้วต้องซ่อมอะไรบ้างล่ะ?: เครื่องยนต์: ต้องเปลี่ยนกรองอากาศแน่ๆ ล้างท่อไอดีให้สะอาด เช็คหัวเทียนกับเซ็นเซอร์ต่างๆ ด้วย น้ำมันต่างๆ: เปลี่ยนให้หมดครั

Knowledge

ทำยังไง ? เมื่อรถของเรา จมน้ำ!

ถ้ารถจมน้ำ ในกรณีที่จอดรถไว้ แล้วรถจมน้ำในระดับสูงท่วมเครื่องยนต์ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ ● ห้ามสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจไปตำแหน่ง ON เด็ดขาด ! เพราะรถยนต์มีอุปกรณ์อีเลคทรอนิค ระบบไฟฟ้า ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ จะทำให้ช็อตเสียหายได้ ● ควรถอดแบตเตอรี่ออก ทันที ! เพื่อตัดระบบจ่ายไฟ ● นำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำหล่อเย็น เป็นต้น ● ส่วนช่วงล่างหรือระบบรองรับ ควรให้ช่างอัดจาระบีที่ลูกหมากใหม่ ตรวจเช็คระบบเบรกว่าผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะรถระบบเบรกแบบดุม น้ำอาจเข้าได้ ต้องถอดออกมาทำความสะอาด หลังขับรถลุยน้ำท่วม เราต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง หลังจากลุยน้ำ ให้เหยียบเบรกซ้ำๆ เพื่อรีดน้ำออกจากจานเบรก ฉีดน้ำล้างช่วงล่างให้ทั่ว ใช้แปรงขนอ่อนขัดเอาเศษโคลน ขยะ หรือเศษกิ่งไม้ออก เปิดฝากระโปรงรถขึ้น เพื่อสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม และเป่าลมเพื่อไล่น้ำออก ตรวจดูน้ำมันเครื่อง ว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ เพราะน้ำอาจเข้าไปผสมได้ ตรวจของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ ถ้าน้ำท่วมถึงกล่

Knowledge

6 ขั้นตอน เคลมประกันน้ำท่วม ต้องทำอย่างไร?

ช่วงนี้หลายพื้นที่น้ำท่วม หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดแล้ว สำหรับใครที่บ้าน รถ ถูกน้ำท่วม 6 ขั้นตอนที่ควรรู้ ! เคลมประกันรถน้ำท่วม ต้องทำอย่างไรบ้าง ? เพื่อที่จะง่าย สะดวก รวดเร็วขึ้นครับ 1.ถ่ายรูปขณะที่น้ำท่วมรถ 2.แจ้งบริษัทประกันให้ทราบเหตุการณ์เบื้องต้น 3.โทรเรียกประกันหลังจากน้ำลดเข้ามาตรวจสอบ 4.รอเจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น 5.หากเข้าข่าย การสูญเสียโดยสิ้นเชิง จะได้รับเงินตามทุนประกันตามที่กำหนด 6.หากเข้าข่าย ความเสียหายบางส่วน จะได้รับใบเคลม แล้วนำรถเข้าซ่อมได้เลย … 2 กรณีเท่านั้นถึงจะเคลมได้ อย่างไรก็ตามนอกจากต้องทำตามขั้นตอนด้านบนแล้วสำหรับคนที่ต้องเตรียมเคลมประกันรถน้ำท่วม แต่จะต้องเข้าใจหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทนจากน้ำท่วมที่จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ -ตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้ -ตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายไม่มากสามารถซ่อมได้ ขอบคุณข้อมูลจาก : springnews ___________________________________ GPAutoparts (ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร) จัดจำหน่ายโดย บริษัท จีพี โมบิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ปรึกษา/สั่งซื้อ/สมัครตัวแทน : Line id @gpautoparts (มี @)

Knowledge

รวบรวมเบอร์โทรสายด่วนขอความช่วยเหลือน้ำท่วม

ในช่วงนี้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จี.พี.อะไหล่ ขอรวบรวมเบอร์โทรสายด่วนขอความช่วยเหลือน้ำท่วม ไว้ดังนี้ ㆍตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วมขอความช่วยเหลือ โทร 1193 ㆍจส.100 สำหรับแจ้งเหตุ และประสานความช่วยเหลือ โทร 1137 ㆍสวพ . FM91 สำหรับแจ้งเหตุ และประสานความช่วยเหลือ โทร 1644 ㆍสายด่วนจราจร โทร 1197 ㆍศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ. สายด่วนแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม โทร 1111 กด 5 ㆍกรมอุตุนิยมวิทยา สายด่วนข้อมูลสภาพอากาศ โทร 1182 ㆍสภากาชาดไทย สายด่วนแจ้งเตือนสาธารณภัย โทร 1664 ㆍบริการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นำส่งโรงพยาบาลกู้ชีพ โทร 1669 ติดตามข้อมูลข่าวสาร/ความรู้ ดีๆ ได้ที่ : https://bit.ly/3fykosn ___________________________________ GPAutoparts (ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร) จัดจำหน่ายโดย บริษัท จีพี โมบิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ปรึกษา/สั่งซื้อ/สมัครตัวแทน : Line id @gpautoparts (มี @) หรือคลิก 👉 ติดต่อเรา : https://www.gpmobility.co.th/contact-us/ ติดตามเรา: https://linktr.ee/gpmobility เปิดให้บริการ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08:30 น. – 17:

Knowledge

6 วิธีขับรถลุยน้ำท่วม อย่างไรให้ปลอดภัย

รับมือปัญหาน้ำท่วม: 6 วิธีขับรถลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย ระดับน้ำที่ปลอดภัยสำหรับรถแต่ละประเภท รถยนต์เล็กและรถเก๋ง: ระดับน้ำไม่เกิน 60 ซม. รถใต้ท้องสูง (รถกระบะและรถ PPV): ระดับน้ำไม่เกิน 80 ซม. 6 วิธีขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย ปิดแอร์ทันที หากเปิดแอร์ไว้ พัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำจะทำงาน เมื่อเจอน้ำท่วม ตัวพัดลมจะตีน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง อาจทำให้ไฟช็อตและรถดับ อีกทั้งยังเสี่ยงใบพัดลมหัก ใช้เกียร์ต่ำ หากเป็นเกียร์ธรรมดา ให้ใช้เกียร์ 1-2 เพราะรถต้องใช้แรงในการฝ่าน้ำ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ ให้ปรับมา L (Low) ไว้เสมอ เคลื่อนรถเรื่อย ๆ ไม่ขับเร็ว เลี้ยงรถให้ขยับเรื่อย ๆ ไม่ขับเร็ว เพราะน้ำเคลื่อนกระแทกฟุตบาท ย้อนกลับเข้ารถ ที่สำคัญห้ามจอดนิ่งแช่น้ำนาน ตามรถคันหน้า ตามเส้นทางคันหน้าและตามชิดคันหน้าให้มากที่สุดแบบปลอดภัย เพราะรถฝ่าน้ำท่วมจะวิ่งช้า การตามคันหน้าถือว่าปลอดภัยจากหลุม-บ่อใต้น้ำ และรถคันหน้าจะแหวกน้ำให้ สิ่งที่ควรทำเมื่อผ่านระยะลุยน้ำแล้ว เหยียบเบรคย้ำ ๆ เหยียบเบรคย้ำ ๆ ไล่น้ำออกจากคาลิปเปอร์-ผ้าเบรค และเป็นการเช็คระบบว่ายังใช้งานได้ปกติ ห้ามดับเครื่องทันที หากจะจอดเช็ครถหลังเพ