Brand

ความเร็วสูงส่งผลต่อระยะเบรกอย่างไร? ข้อเท็จจริงที่นักขับต้องรู้

เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น ระยะเบรกเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น พลังงานจลน์ของรถจะเพิ่มขึ้นเป็นกำลังสองของความเร็ว ซึ่งหมายความว่ายิ่งขับเร็ว ระยะเบรกจะยิ่งเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ มีผลโดยตรงต่อระยะเบรกและความสามารถในการหยุดรถ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ 🚗 การเปรียบเทียบระยะเบรกและระยะหยุดรถ ที่ความเร็ว 40 กม./ชม. ต้องใช้ระยะหยุดรถ 19 เมตร ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ระยะหยุดรถเพิ่มขึ้นเป็น 54 เมตร (เกือบ 3 เท่าของ 40 กม./ชม.) ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ระยะหยุดรถเพิ่มเป็น 105 เมตร (มากกว่า 5 เท่าของ 40 กม./ชม.) ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. ต้องใช้ระยะหยุดรถถึง 135 เมตร 🚨 ผลกระทบของระยะเบรกที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงในการเบรกไม่ทัน – หากเกิดเหตุฉุกเฉิน การขับขี่เร็วเกินไปอาจทำให้ไม่มีระยะเพียงพอในการหยุดรถ การชนรุนแรงขึ้น – พลังงานจากการชนเพิ่มขึ้นตามกำลังสองของความเร็ว ทำให้อุบัติเหตุรุนแรงขึ้น เบรกทำงานหนักขึ้น – เบรกอาจเกิดอาการ Fade หรือเบรกไหม้ได้เมื่อต้องหยุดรถจากความเร็วสูง การสูญเสียการควบคุม – เบรกกะทันหันที่ความเร็วสูงอาจทำให้รถลื่นไถลหรือพลิกคว่ำได้ ✅ ข้อแนะนำในการขับขี่อย่างปลอดภัย

เลือกโช๊คอัพแบรนด์ไหนดี ให้เข้ากับรถของคุณ

การเลือกโช๊คอัพที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์ แต่ต้องพิจารณาจากสไตล์การใช้งานและสภาพถนนที่เจอในแต่ละวันอีกด้วย GP Autoparts คัดมาให้แล้ว เพื่อตัดสินใจง่ายขึ้นกันครับ โช๊คอัพในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก 1.โช๊คอัพไฮดรอลิก (Hydraulic Shock Absorbers) ใช้น้ำมันไฮดรอลิก (80% น้ำมัน, 20% อากาศ) ที่ทำงานผ่านวาล์วในลูกสูบสร้างฟองอากาศช่วยให้รถมีความนุ่มนวลและทรงตัว เหมาะกับการใช้งานทั่วไป 2.โช๊คอัพแก๊ส (Gas Charged Shock Absorbers) ผสมแก๊สไนโตรเจน กับน้ำมันเพื่อป้องกันการเกิดฟองอากาศ ให้การดูดซับแรงกระแทกที่เสถียรและตอบสนองได้รวดเร็วกว่าแบบไฮดรอลิก เป็นที่นิยมในรถที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ท้าทายหรือใช้งานหนัก 3.โช๊คอัพปรับเปลี่ยนค่า (Adaptive/Active Shock Absorbers) ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนระดับแรงต้านและความหนืดในการดูดซับแรงกระแทกเหมาะกับรถยนต์สมัยใหม่ที่ต้องการปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม 📌TOKICO โช๊คอัพได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในสภาพถนนที่ท้าทายและหนัก ดูดซับแรงกระแทกได้ดี รุ่นที่นิยม ได้แก่ ✅TOKICO Standard Series : สำหรับการใช้งานทั่วไปในรถกระบะหรือ SUV ✅TOKICO Alpha Se

เลือกน้ำมันเครื่อง ACDelco ที่ใช่ ให้เหมาะกับรถคุณ

การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรถยนต์ของคุณให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ น้ำมันเครื่อง ACDelco มีให้เลือกทั้งแบบ กึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil) และ สังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic Oil) พร้อมคุณสมบัติเด่นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil) ✅ ป้องกันคราบเขม่า ✅ ช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ ✅ ป้องกันเครื่องยนต์จากการสึกหรอ ✅ ระยะเปลี่ยนถ่ายที่แนะนำ: 7,000-10,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic Oil) ✅ ทนความร้อนได้สูง ✅ ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง ✅ ระยะเปลี่ยนถ่ายนานกว่า ✅ ลดการปล่อยควันเสีย ✅ ระยะเปลี่ยนถ่ายที่แนะนำ: 10,000-15,000 กิโลเมตร   ___________________________________ ACDelco by GP Autoparts ช้อปออนไลน์ได้ที่ lazada : https://s.lazada.co.th/s.LnOqi Shopee : https://s.shopee.co.th/607UMnMB5E?share_channel_code=6 Line id: @gpautoparts (มี @) หรือคลิก https://bit.ly/3fO3YMO เปิดให้บริการ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08:30 น. – 17:30 น. 02-941-1222 (Auto),02-579-2882 www.gpmobilit

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ไส้กรองแอร์เกิดปัญหา

การสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าไส้กรองแอร์เกิดปัญหาหรือเสื่อมสภาพสามารถทำได้จากอาการต่อไปนี้ 1.มีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเหม็นอับออกมาจากแอร์ หากมีกลิ่นอับชื้น อาจเกิดจากไส้กรองแอร์สกปรก หรือในบางกรณีอาจพบสัตว์เล็ก เช่น หนู เข้าไปติดอยู่ภายในแผ่นกรอง ซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ 2.แรงลมจากแอร์เบาลง หรือแอร์ทำความเย็นได้ไม่ดีเหมือนเดิม หากรู้สึกว่าแรงลมที่ออกมาจากแอร์เบาลง มีเสียงลมดังผิดปกติ หรือรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นเหมือนปกติอาจเป็นเพราะไส้กรองแอร์อุดตัน อากาศไม่สามารถไหลผ่านได้เต็มที่ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดลง 3.รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ สังเกตเห็นว่ารถกินน้ำมันมากขึ้น แม้ปัญหานี้จะเกิดได้จากหลายอย่าง แต่ก็รวมไปถึงไส้กรองแอร์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรพิจารณาเปลี่ยนไส้กรองแอร์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบแอร์และเพื่อรักษาคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสาร หากเจอสัญญาณเหล่านี้ รีบตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองแอร์ของคุณทันที ด้วยไส้กรองแอร์ ACDelco เพื่อระบบแอร์ที่เย็นสดชื่น และประหยัดพลังงาน ___________________________________ ACDelco by GP Autoparts ช้อปออนไลน์ได้ที่

🚗💻 อัพเดท 2568 ต่อใบขับขี่ ออนไลน์ง่ายๆในไม่กี่ขั้นตอน

การต่อใบขับขี่ในปี 2568 สามารถทำได้ออนไลน์ โดยกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบที่ช่วยให้การต่อ ใบขับขี่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผ่านการอบรมออนไลน์และการจองคิว โดยมีขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ออนไลน์ 1.อบรมออนไลน์ เข้าสู่เว็บไซต์ DLT e-learning เพื่อทำการอบรมออนไลน์ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน หลังจากอบรมเสร็จสิ้น ผู้ใช้จะได้รับใบรับรองการอบรมที่มีอายุ 6 เดือน 2.จองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue จาก App Store หรือ Google Playสร้างบัญชีผู้ใช้งานและเลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการติดต่อ เลือกประเภทบริการ (เช่น ต่อใบขับขี่) และจองวันที่และเวลาที่สะดวก 3.เตรียมเอกสาร ใบอนุญาตขับรถเดิม บัตรประชาชนตัวจริง ใบรับรองแพทย์ที่ออกไม่เกิน 1 เดือน หลักฐานการอบรมออนไลน์ 4.ไปยื่นเอกสารที่สำนักงานขนส่ง เมื่อตรงตามวันเวลาที่จอง ให้ไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อตรวจสอบเอกสาร ทดสอบสมรรถภาพ ร่างกาย และชำระค่าธรรมเนียม 5.รับใบขับขี่ใหม่ หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด จะได้รับใบขับขี่ใหม่ การดำเนินการออนไลน์ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในหลายส่วน แต่การรับใบขับขี่ใหม่ยังคงต้

การเติมน้ำมันผิดประเภท จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างไร🚗💨

การเติมน้ำมันผิดประเภทอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างร้ายแรงโดยผลกระทบขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันและเครื่องยนต์ ดังนี้ ผลกระทบจากการเติมน้ำมันผิด 1.เติมเบนซินในเครื่องยนต์ดีเซล ● เสียงเครื่องยนต์ดัง สะดุด หรืออาจดับ ● ควันดำออกจากท่อไอเสียมากผิดปกติ ● หัวฉีดและปั๊มน้ำมันเสียหาย เนื่องจากเบนซินไม่มีคุณสมบัติหล่อลื่นเหมือนดีเซล 2. เติมดีเซลในเครื่องยนต์เบนซิน ● เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด เนื่องจากดีเซลเผาไหม้ยากกว่า ● หัวเทียนและหัวฉีดอุดตัน ● ต้องล้างระบบเชื้อเพลิงและอาจเปลี่ยนชิ้นส่วนบางอย่าง วิธีการจัดการเมื่อเติมน้ำมันผิด 1.ห้ามสตาร์ทรถ : หากคุณรู้ตัวว่าทำผิด อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันที่เติมผิดไหลเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์ 2.แจ้งพนักงานปั๊ม : ติดต่อพนักงานที่ปั๊มน้ำมันเพื่อให้ช่วยดูดน้ำมันที่เติมผิดออกจากถัง 3.เติมน้ำมันที่ถูกต้อง : ติดต่อพนักงานที่ปั๊มน้ำมันเพื่อให้ช่วยดูดน้ำมันที่เติมผิดออกจากถัง 4.ตรวจสอบระบบต่าง ๆ : สังเกตว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากมีอาการผิดปกติ ควรนำรถไปตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ การเติมน้ำมันผิดประเภทเป็นเรื่องที่ควรระวังอย่างยิ่ง เนื่อ

📞 อัปเดตเบอร์โทรฉุกเฉินปีใหม่ 2568! 🚨เดินทางปลอดภัย อุ่นใจทุกเส้นทาง By GP Autoparts

อัปเดตเบอร์โทรฉุกเฉินปีใหม่ 2568! เดินทางปลอดภัย อุ่นใจทุกเส้นทาง By GP Autoparts เบอร์โทรฉุกเฉิน การท่องเที่ยว 1543 – กรมทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1193 – ตำรวจทางหลวง 1155 – ตำรวจท่องเที่ยว (แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว) 1644 – สวพ. FM91 สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและจราจร 1690 – การรถไฟแห่งประเทศไทย 1146 – กรมทางหลวงชนบท 02-134-4077 – ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) การมีเบอร์โทรฉุกเฉินเหล่านี้ติดตัวไว้จะช่วยให้คุณสามารถติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในระหว่างการเดินทาง. ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยในช่วงปีใหม่นี้ค่ะ ___________________________________ บริษัท จีพี โมบิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร) ปรึกษา/สั่งซื้อ/สมัครตัวแทน : Line id @gpautoparts (มี @) หรือคลิก https://bit.ly/3fO3YMO ติดต่อเรา : https://bit.ly/3V15A5T ติดตามเรา: https://linktr.ee/gpmobility เปิดให้บริการ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08:30 น. – 17:30 น. เบอร์ติดต่อ : 02-941-1222 (Auto),02-579-2882 www.gpmobility.co.th

เตรียมตัวให้พร้อมทั้งคนและรถ ปีใหม่นี้ขับขี่ปลอดภัยไปถึงทุกจุดหมาย!

เตรียมตัวให้พร้อมทั้งคนและรถ ปีใหม่นี้ขับขี่ปลอดภัยไปถึงทุกจุดหมาย! การเดินทางในช่วงหยุดยาวปีใหม่ช่วงปีใหม่เป็นเวลาที่หลายคนเดินทางกลับบ้าน พบปะครอบครัว หรือท่องเที่ยว การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัย โดยแบ่งเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งคนและรถ ดังนี้   เตรียมรถให้พร้อม ตรวจสภาพเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ ยางรถยนต์ ระบบเบรก และระบบไฟ  เติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เต็มถัง  พกอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ และชุดเครื่องมือ  👤 เตรียมคนขับ:  พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการเดินทางขณะอ่อนล้า  ตรวจสุขภาพร่างกาย และงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทาง  วางแผนเส้นทางล่วงหน้า พร้อมเอกสารสำคัญ เช่น ใบขับขี่และประกันภัย  🎯 ขับขี่ปลอดภัย:  ปฏิบัติตามกฎจราจร ใช้ความเร็วที่เหมาะสม และหยุดพักเมื่อจำเป็น  เตรียมสิ่งจำเป็นในรถ เช่น น้ำดื่ม อาหารแห้ง และ Power Bank  การเตรียมพร้อมทั้งคนและรถอย่างรอบคอบจะช่วยให้ทุกการเดินทางในช่วงปีใหม่นี้เป็นไปอย่างปลอดภัย ราบรื่น และถึงจุดหมายอย่างมีความสุขนะคะ ___________________________________ GPAutoparts (ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร) จัดจำหน่าย

วิธีสังเกตผ้าเบรกบาง และสัญญาณเตือน เมื่อถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรก

วิธีสังเกตผ้าเบรกบาง และสัญญาณเตือน เมื่อถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรก เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ อย่าละเลยการตรวจเช็คผ้าเบรกวันนี้เราจะมาบอกวิธีสังเกตผ้าเบรกบาง พร้อมสัญญาณเตือนที่ต้องระวังกันค่ะ วิธีสังเกตผ้าเบรกบาง 1.ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรก: ผ้าเบรกใหม่จะหนาประมาณ 10 มม. หากเหลือ 4-5 มม. ควรพิจารณาเปลี่ยนทันทีและถ้าต่ำกว่า 4 มม. ถือว่าเสี่ยงอันตรายมาก 2.ฟังเสียงขณะเหยียบเบรก: ถ้าได้ยินเสียง “จี๊ดดด” หรือเสียงโลหะเสียดสีกัน อาจหมายถึงผ้าเบรกใกล้หมดหรือหมดแล้ว ควรรีบเช็คด่วน! เสียงเหล่านี้อาจเกิดจากการที่ผ้าเบรกบางจนทำให้ เสียดสีกับจานเบรก 3.สัมผัสการเหยียบเบรก: หากต้องเหยียบเบรกลึกกว่าปกติ หรือรถไม่ชะลอตัวทันที แสดงว่าผ้าเบรกเริ่มบาง ต้องนำรถไปตรวจสอบทันที 4.ตรวจสอบปริมาณน้ำมันเบรก: หากน้ำมันเบรกลดต่ำลงแต่ไม่มีรอยรั่ว อาจเป็นสัญญาณว่าผ้าเบรกเสื่อม เพราะลูกสูบในคาลิปเปอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการเหยียบเบรก สัญญาณเตือนที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรก 1.ไฟเตือนบนหน้าปัด: รถยนต์หลายรุ่นมีระบบเตือนเมื่อผ้าเบรกเสื่อม หากไฟเตือนรูป “P” หรือเครื่องหมายตกใจ “!&#82